เทียรี่ เมฆวัฒนา.

ชื่อเกิด เทียรี่ สุทธิยงค์ เมฆวัฒนา

ชื่อเล่น รี่

วันเกิด 23 เมษายน พ.ศ. 2501 (55 ปี)

แหล่งกำเนิด ประเทศลาว

แนวเพลง เพื่อชีวิต, ร็อก, ป๊อป

อาชีพ นักร้อง, นักดนตรี, โปรดิวเซอร์

เครื่องดนตรี กีตาร์

ปี พ.ศ. 2521 - ปัจจุบัน

เทียรี่ เมฆวัฒนา เกิดที่ประเทศลาว โดยมีพ่อทำงานให้กับหน่วยซีไอเอในลาวคอยหาเครื่องใช้ให้ทหารอเมริกัน แม่เป็นชาวสวิสเซอร์แลนด์ ชื่อ Simond พอเทียรี่ อายุได้ 2 ขวบที่ประเทศลาวมีสงครามกลางเมืองพ่อจึงพาครอบครัวย้ายมาอยู่เมืองไทย เทียรี่มีความสนใจในการเล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็ก ๆ โดยหัดเล่นกีตาร์ตอนอายุ 11 ขวบ ซึ่งเพลงแรกที่หัดเล่นคือเพลง Flying Machine ของคลิฟฟ์ ริชาร์ด เทียรี่ชื่นชอบและได้รับแรงบันดาลใจทางดนตรีมาจากบทเพลงของบ็อบ ดิลลัน, ดอน แม็กลีน, เดอะ บีทเทิลส์ รวมถึงวงควีน

วงการบันเทิง

เทียรี่เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการถ่ายแบบ แสดงละครและภาพยนตร์มาก่อน เริ่มมีผลงานทางดนตรีครั้งแรก เป็นดนตรีแนวโฟล์ก โดยเข้าร่วมวงดนตรี Runspot กับ กิตติคุณ เชียรสงค์ และหมึก ศิลปากร ออกอากาศรายการ เสาร์สนุก ทางช่อง 9 ในปี พ.ศ. 2521

หลังจากนั้นด้วยความที่ตัวเทียรี่ได้ออกโทรทัศน์บ่อยจึงได้รับการติดต่อให้แสดงภาพยนตร์เรื่องแรกคือเรื่อง สตรีหมายเลขศูนย์ คู่กับ ชลธิชา สุวรรณรัต และได้เล่นเป็นพระเอกอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง โอ้กุ๊กไก่ ในปี พ.ศ. 2522 ก่อนจะเดินทางไปศึกษาต่อและทำงานเป็นนักดนตรีตอนกลางคืนในร้านอาหาร ที่เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยร้องเพลงสากลของคลิฟฟ์ ริชาร์ด และ เอลวิส เพรสลี่ย์

หลังจากกลับมาเมืองไทยเพียง 2 สัปดาห์ ก็ได้เล่นเป็นวงแบ็คอัพในห้องอัดเสียงของ อโซน่า และมีผลงานเพลงกับ ไพจิตร อักษรณรงค์ จำนวน 2 อัลบั้มคือ รักแรก และ เรือรัก โดยอัลบั้มชุดที่ 2 มีเพลงฮิตอย่าง วานนี้ช้ำ วันนี้จำ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2526 วงคาราบาวมาอัดเสียงที่ห้องอัดแห่งนี้ เทียรี่จึงได้เป็นนักดนตรีแบ็คอัพบันทึกเสียงให้คาราบาวในชุด ท.ทหารอดทน ก่อนที่จะได้ออกทัวร์คอนเสิร์ตร่วมกับวงเมื่อเล็ก ปรีชา ชนะภัยมือกีตาร์ของวงต้องไปทัวร์คอนเสิร์ตกับวงเพรสซิเดนท์ที่สหรัฐอเมริกา เล็ก ปรีชาจึงให้เทียรี่มาทำหน้าที่เล่นกีตาร์ไฟฟ้าบนเวทีแทนตน

ด้วยความโด่งดังของอัลบั้มท.ทหารอดทน ทำให้วงคาราบาวได้เล่นเป็นดารารับเชิญในภาพยนตร์เรื่อง ปล. ผมรักคุณ และเทียรี่ในฐานะนักดนตรีแบ็กอัพก็ได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่องนี้พร้อมกับคาราบาวด้วย โดยในปีดังกล่าว เทียรี่ เมฆวัฒนา ได้แต่งงานเป็นครั้งแรกกับแฟนสาวที่คบหากันมานานถึง 6 ปี แต่ใช้ชีวิตคู่อยู่เพียงแค่ 6 เดือนก็หย่าขาดจากกันในปีเดียวกัน

เข้าร่วมวงคาราบาว

หลังจากทัวร์คอนเสิร์ตร่วมกับวงมาอย่างยาวนานเทียรี่ ก็ได้เป็นสมาชิกของคาราบาวอย่างเต็มตัวในปี พ.ศ. 2527 ในอัลบั้มชุดเมด อิน ไทยแลนด์ โดยเป็นสมาชิกใหม่ในตำแหน่งมือกีตาร์และนักร้องนำ ร้องเพลงให้คาราบาวเพลงแรกคือเพลง นางงามตู้กระจก ซึ่งผลจากความสำเร็จอย่างถล่มทลายของอัลบั้มชุดนี้ที่มียอดจำหน่ายในปีเดียวมากกว่า 5,000,000 ก็อปปี้ ทำให้เทียรี่ เมฆวัฒนาในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของวงโด่งดังเป็นอย่างมาก และได้ขึ้นเล่นคอนเสิร์ตทำโดยคนไทย ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ของวงที่เวโลโดรม ในปี พ.ศ. 2528 ซึ่งคอนเสิร์ตดังกล่าวมีผู้ชมมากกว่า 60,000 คน อีกทั้งยังได้ไปทัวร์คอนเสิร์ตที่สหรัฐอเมริกาอีกด้วย โดยเทียรี่ เมฆวัฒนาได้เป็นผู้ร้องเพลงเมด อิน ไทยแลนด์ ภาคภาษาอังกฤษ โดยในเวอร์ชันนี้ทางวงตั้งชื่อเพลงว่า เมด อิน ไทยแลด์ อิน ยูเอสเอ

ในปี พ.ศ. 2528 เทียรี่ เมฆวัฒนาได้แสดงภาพยนตร์อีกครั้งในเรื่องเสียงเพลงแห่งเสรีภาพ คู่กับอุทุมพร ศิลาพันธ์ ซึ่งสมาชิกวงคาราบาวได้แสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยกันทั้งวงตลอดจนมีดาราอื่น ๆ เช่น สุพรรษา เนื่องภิรมย์, พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ ร่วมแสดงด้วย และในปีดังกล่าวบริษัทการบินไทย ครบรอบ 25 ปี จึงได้มอบหมายให้วงคาราบาวแต่งเพลงให้ ซึ่งแอ๊ด ยืนยง โอภากุลได้แต่งเพลง รักคุณเท่าฟ้า โดยมอบให้เทียรี่เป็นผู้ขับร้อง และกลายเป็นเพลงฮิตที่ติดหูผู้ฟังอย่างมากจนถึงปัจจุบันและมีการนำกลับมาร้องซ้ำโดยศิลปินอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ฟอร์ด สบชัย ไกรยูรเสน

ในปีดังกล่าวเทียรี่ได้แต่งงานอีกครั้งกับนางเอกสาว อุทุมพร ศิลาพันธ์ ซึ่งทั้งสองเคยมีงานแสดงร่วมกัน

จากนั้นคาราบาวได้ออกอัลบั้มชุดอเมริโกย อัลบั้มนี้เทียรี่ได้ร้องนำ 1 เพลงคือเพลง มาลัย โดยวงคาราบาวได้กลายเป็นผู้นำแฟชั่นของวัยรุ่นในสมัยนั้นด้วยการแต่งตัวด้วยชุดลายพรางทหารและใส่แว่นดำ ต่อมาได้ร่วมงานกับทางวงในชุดประชาธิปไตย ซึ่งวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2529 โดยได้ร้องนำคู่กับแอ๊ดในเพลง มหาจำลอง รุ่น 7

ในปี พ.ศ. 2530 คาราบาวออกอัลบั้มเวลคัม ทู ไทยแลนด์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มที่มียอดขายเกิน 1,000,000 ก็อปปี้ และมีมิวสิกวิดีโอถึง 4 เพลง เทียรี่มีบทบาทในอัลบั้มชุดนี้มากโดยนอกจากจะเป็นมือกีตาร์และประสานเสียงแล้ว ยังได้ร้องเพลงในอัลบั้มนี้ถึง 3 เพลง คือเพลงสังกะสี, เพลงบิ๊กเสี่ยว ที่ร้องคู่กับแอ๊ด และเพลง คนหนังเหนียว ที่ร้องคู่กับเล็ก ปรีชา ชนะภัย

เทียรี่ เมฆวัฒนาโด่งดังถึงขีดสุดกับคาราบาวในอัลบั้ม ทับหลัง ในปี พ.ศ. 2531 จากการขับร้องเพลง แม่สาย ซึ่งเพลงนี้มีการทำเป็นมิวสิควิดีโอแบบแอนิเมชั่นอีกด้วย

แยกวง

หลังวงคาราบาวประสบความสำเร็จจากอัลบั้มทับหลังในปี พ.ศ. 2531 เทียรี่จึงได้แยกวงไปพร้อมกับสมาชิกอีก 2 คน คือ อ. ธนิสร์ ศรีกลื่นดี และ อำนาจ ลูกจันทร์ และทั้ง 3 คนได้ร่วมกันออกอัลบั้มในชื่อชุด ขอเดี่ยวด้วยคนนะ ในปี พ.ศ. 2532 มีเพลงที่เป็นที่รู้จัก เช่น สาวดอย สอยดาว, วันเกิด, เงินปากผี เป็นต้น

หน้าปกอัลบั้ม ขอเดี่ยวด้วยคนนะ

ในปี พ.ศ. 2533 เทียรี่ก็ได้ออกอัลบั้มเดี่ยวของตัวเองชุดแรกภายหลังแยกวง คือ เจาะเวลา... โดยอัลบั้มชุดนี้ได้รับการสนับสนุนจากเครื่องดื่มโค้ก และได้ อิทธิ พลางกูร มาเป็นศิลปินรับเชิญร่วมขับร้องเพลง ทะเล ตลอดจนได้ชานนท์ ทองคง อดีตมือเบสวง เนื้อกับหนัง ซึ่งเป็นวงดนตรีเฮฟวี่ เมทัลยุคแรก ๆ ของเมืองไทยมาร่วมงานด้วยในตำแหน่งมือเบส ทำให้อัลบั้มชุดนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีเพลงฮิตที่รู้จักกันดีเช่น ปาปาย่า ป๊อก ๆ , สาวตากลม, เจาะเวลาหาปัจจุบัน, รักขึ้นสมอง เป็นต้น

ปี พ.ศ. 2534 ได้ออกอัลบั้ม สุดขั้วหัวใจ มีเพลงฮิตคือเพลง ความรักสีดำ, ไผ่แดง ซึ่งเป็นเพลงประกอบละครเรื่องไผ่แดง และเพลง สูงสุดสู่สามัญ ซึ่งได้รับรางวัลสีสันอะวอร์ดส์ สาขาเพลงยอดเยี่ยม ประจำปี พ.ศ. 2534

เดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2535 เทียรี่ออกอัลบั้มชุดที่ 3 ในชื่อชุดไม่เต็มบาท มีเพลงเด่น ๆ เช่น แสงแห่งกาลเวลา, พขร.ณ รมต., ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหน, ทำใจ, ฝันของดอกไม้ริมทาง เป็นต้น โดยอัลบั้มนี้เป็นชุดสุดท้ายที่มีโค้กเป็นผู้สนับสนุน ก่อนที่เทียรี่จะออกอัลบั้มชุดที่ 4 ในปี พ.ศ. 2537 ในชุด คาถาเศรษฐี ซึ่งมีเพลงฮิตในขณะนั้นคือ ถังแตก, สิ่งสุดท้ายแห่งความทรงจำ ตลอดจนมีเพลงประกอบโฆษณาอย่าง ปรารถนา และเพลงประกอบรายการโทรทัศน์อย่างเพลง จบที่ใจ เป็นต้น

หลังจากนั้นเทียรี่ได้ออกอัลบั้มเดี่ยวออกมาอีกหลายชุดเช่น ยาชูกำลัง, จักรวาล โดยเทียรี่ เมฆวัฒนาเป็นนักร้องที่มีเสียงแหบเสน่ห์ เป็นตัวของตัวเอง โดยมากเพลงที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมเป็นเพลงช้า จึงได้มีโอกาสแต่งและร้องเพลงประกอบภาพยนตร์และละครหลายเรื่อง เช่น ละครเรื่อง สุดแต่ใจจะไขว่คว้า (ช่อง 3: 2532), ไผ่แดง (ช่อง 7: 2534), ด้วยสองมือแม่นี้ที่สร้างโลก (ช่อง 3: 2537), แม้เลือกเกิดได้ (ช่อง 7: 2544) เป็นต้น และเคยร้องเพลงออกอัลบั้มร่วมกับ อิทธิ พลางกูร ด้วย และจุดเด่นอีกประการหนึ่งของเพลงของเทียรี่ อยู่ที่เนื้อร้องที่เล่นกับภาษาได้อย่างลงตัวและสนุก มีความหมาย เช่น เพลง พขร.ณ รมต. ที่เล่นกับตัวย่อทั้งเพลง, ฉำฉาฉ่อยฉุกเฉิน ที่เล่นกับอักษร ฉ.ฉิ่ง ทั้งเพลง, หัวใจจิ้มจุ่ม ที่เล่นกับอักษร จ.จาน, ไปไหนไปด้วย ที่มีการยกตัวอย่างเปรียบเทียบเปรียบเปรยทั้งเพลง เป็นต้น และเพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้มเดี่ยวมักจะแฝงไว้ด้วยป๊อปเซ้นส์เสมอซึ่งทำให้เพลงของเทียรี่ฟังง่ายและเป็นที่นิยม

ในปี พ.ศ. 2552 เทียรี่ได้รับเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาทางโทรทัศน์ให้กับโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ G-Net โดยเป็นพรีเซนเตอร์ของโทรศัพท์ยี่ห้อนี้เป็นคนแรกด้วย และปัจจุปันยังเป็นสมาชิกของวงคาราบาว

ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 ปรากฏข่าวลือว่าเทียรี่ได้ฆ่าตัวตายด้วยการใช้ปืนยิงตัวเอง แต่เมื่อได้มีการตรวจสอบกันแล้ว พบว่า เทียรี่มีอาการกระเพาะทะลุจากการดื่มสุราหนัก โดยพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีสยาม

ชีวิตส่วนตัว

เทียรี่ เมฆวัฒนา แต่งงานกับ อุทุมพร ศิลาพันธุ์ นักแสดงสาว ทั้งคู่ได้อยู่กินกันมานับสิบปี จนมีลูกด้วยกันทั้งสิ้น 2 คน คือ เจน เมขลา (ลูกสาว) และ เจสซี่ เมฆ (ลูกชาย) แต่ก็ได้หย่าร้างกันเมื่อต้นปี พ.ศ. 2545 ฝ่ายเทียรี่เป็นคนขอหย่าเอง โดยอ้างว่าไม่มีเวลาให้กับครอบครัวเพียงพอ ปัจจุบัน เทียรี่มีห้องอัดเสียงเป็นของตนเองชื่อ jessie&jane studio มีบริษัทเพลงของตัวเองชื่อ here entertainment และมีบริษัท CRB entertainment จำกัด รับงานโฆษณาและผลิตรายการโทรทัศน์ โดยมีนิตยสารของตนเองชื่อ Coffee Break

ปัจจุบัน เจสซี่ ลูกชายของเทียรี่ ศึกษาอยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ และเจน ลูกสาวคนโต ศึกษาอยู่ที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

นอกจากนี้แล้ว เทียรี่ ยังมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการและแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ด้วย เนื่องจากนายเอนก บิดาของเทียรี่เป็นน้องชายแท้ ๆ ของ นางไซย้ง แซ่ฮุ้น มารดาของนายสนธิ