ก้องหล้า ยอดจำปา (ก้อง ห้วยไร่)


ก้อง ห้วยไร่ เจ้าของเพลงฮิต ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน เผยที่ไปที่มาของเพลงฮิตพร้อมเล่าประวัติเส้นทางชีวิตจากเด็กบ้านนอกธรรมดามาพบรักในกรุงเทพฯ แล้วถูกหักอก จนเป็นนักร้องข้างถนน สู่การเป็นนักร้องที่หลายคนให้ความสนใจ  

              หากเอ่ยชื่อเพลง ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน ของ ก้อง ห้วยไร่ เรียกได้ว่ามีน้อยคนที่จะไม่รู้จัก เพราะเป็นเพลงลูกทุ่งที่มาแรงแซงทางโค้ง การันตีจากยอดวิวในยูทูบกว่า 50 ล้านวิว ทำให้รายการเจาะข่าวเด่น ทางช่อง 3 เชิญตัวเจ้าของเพลงฮิตอย่าง ก้อง ห้วยไร่ มาเล่าประสบการณ์และความรู้สึกในรายการ  

              ก้องหล้า ยอดจำปา เผยว่า ชื่อ ก้อง ห้วยไร่  เป็นชื่อที่ใช้ในการร้องเพลง มาจากการที่ตนเองอาศัยอยู่ที่บ้านห้วยไร่ ต.ธาตุ จ.สกลนคร ชื่อเล่นว่า ก้อง จึงนำมาผสมกันเป็น ก้อง ห้วยไร่ แต่ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น อัครเดช ยอดจำปา เปลี่ยนก่อนที่เพลงนี้จะออกเพื่อเสริมดวง เนื่องจากมีพระมาบอกให้เปลี่ยน 

ประวัติ


              ที่มาของเพลง ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน ก่อนหน้านี้จะเป็นที่รู้จักกันในวงหมอลำ คนอีสาน แต่หลังจาก ไข่มุก เดอะวอยซ์ นำมาร้องประกวดก็ทำให้เพลงนี้เป็นที่รู้จักของทุกภาค ส่วนเรื่องที่มีคนสงสัยว่าน้องไขมุกร้องผิดจังหวะหรือเปล่านั้น ผมก็ได้ไปยืนยันว่าน้องไข่มุกร้องถูกจังหวะแล้ว แต่ผมเป็นฝ่ายที่ร้องไม่ตรงจังหวะเอง เพราะเป็นสไตล์ส่วนตัว พอเห็นว่ามีคนนำเพลงไปร้องก็รู้สึกภูมิใจ ก้อง ห้วยไร่ กล่าว

              ก้อง ห้วยไร่ เล่าว่า ตอนที่แต่งเพลงนี้ไม่คิดว่าจะเป็นที่รู้จัก เพราะแต่งมาจากชีวิตจริงของตนเอง โดยเป็นเรื่องของเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ แล้วมาพบรักกับคนอีสานด้วยกันและสัญญากันว่าจะไม่ทิ้งกันแม้จะเจออุปสรรคเข้ามา แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ตนทำงานเป็นพีอาร์สถานความงาม ต้องออกต่างจังหวัดตลอดไม่ค่อยได้อยู่กรุงเทพฯ พอกลับมาผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่ามีคนใหม่แล้ว ทำให้ตนอยากถ่ายทอดความรู้สึกตอนนั้นให้เขาได้ยิน จึงเขียนเป็นกลอนก่อนแล้วทิ้งไว้ หลังจากนั้นชีวิตตนก็เหมือนคนเร่ร่อน เพราะรู้สึกว่าไม่เจอใครและได้ลาออกจากที่ทำงาน ทั้งไม่มีงานและไม่มีเงิน เป็นแบบนี้ประมาณเกือบ 6 เดือน ประทังชีวิตด้วยการมาเล่นกีตาร์ข้างถนน ขอร้องเพลงตามร้านหมูกระทะ

ประวัติ


              จนกระทั่งวันหนึ่งผมได้ไปนั่งดีดกีตาร์แถวสนามราชมังคลากีฬาสถานและวันนั้นมีคอนเสิร์ตของพี่ตูน บอดี้สแลม ซึ่งผมรู้จักเขาแต่เพียงเพลงที่กระแทกแรง ๆ แต่พอฟังแล้วมีอยู่เพลงหนึ่งที่มีเสียงเปียโน ในเพลง ทางกลับบ้าน เนื้อหาประมาณว่า ถ้าคนเราผิดพลาด รู้สึกท้อแล้วคิดถึงบ้าน ทำไมไม่กลับบ้าน ซึ่งตรงกับผมที่โกหกที่บ้านตลอดว่าตัวเองสบายดี พอฟังเพลงนี้แล้วผมก็เดินทางกลับบ้าน พอเจอพ่อก็เข้ามากอดเราแล้วบอกว่าอย่าไปไหนอีกเลย หลังจากอยู่บ้านก็ได้ฟังแม่สวดบทสวดสรภัญญะ ทำให้คิดได้ว่าถ้ากลอนของเรากลายเป็นเพลงจะเป็นอย่างไร จึงแต่งเป็นเพลงแล้วอัดวิดีโอลงเฟซบุ๊กก็ได้เพียง 7 ไลค์ และ 1 คอมเม้นท์มาแสดงความคิดเห็นว่า กาก แต่เราก็ไม่ท้อ ก้อง ห้วยไร่ กล่าว

              ก้อง ห้วยไร่ เล่าต่อว่า จนวันหนึ่งได้ไปเจอกับพี่กบ เจ้าของค่ายซาวด์มีแฮง เรคคอร์ด หน้าเวทีหมอลำ ก็ได้ชวนมาทำเพลงเป็นอีสานพื้นบ้านโบราณจนกลายมาเป็นนักร้อง โดยไม่สนว่าจะมีคนเข้าใจภาษาของเราไหม จากนั้นพี่กบก็เลยตกลงกันว่าจะถ่ายมิวสิควิดีโอ ก็ได้เรียกน้อง ๆ นักแสดงมาถ่ายทำที่บ้านเกิดผมโดยบอกว่าไม่มีค่าตอบแทนให้นะ ซึ่งน้อง ๆ และผู้กำกับ ก็ยินดีมาช่วย ระหว่างถ่ายทำทั้งกองถ่ายมีกล้องเพียงตัวเดียว ถ่ายกันตามมีตามเกิด จนตอนนี้มียอดวิวหลายล้านวิวในเวลาไม่นานทำให้มีรายการต่าง ๆ ติดต่อเข้ามาหาบอกว่าเพลงของเราเป็นเพลงดังและมีการแชร์ต่อกันไปอย่างมากมาย 

เปิดเส้นทางชีวิต


              ในตอนแรกผมยังปรับตัวไม่ทันและทุกวันนี้ผมยังถามตัวเองตลอดว่านี่เป็นตัวเราจริง ๆ หรือเปล่า

              นอกจากนี้ ก้อง ห้วยไร่ ได้เผยว่า ก่อนมาเป็นนักร้อง ตอนเด็ก ๆ เคยคิดว่าอยากเป็นดาราหรือไม่ก็นักฟุตบอลทีมชาติ จนวันหนึ่งไปเห็นป้ายรับสมัครงานที่หน้าศูนย์บริการความงาม เขียนว่า เงินเดือน 15,000 บาท ซึ่งตนเองก็คิดว่าเยอะจังแต่เป็นงานที่ต้องใช้รูปร่างหน้าตา พอเดินเข้าไปคนที่รับสมัครก็มองเราหัวจรดเท้าแล้วบอกตรง ๆ ว่าหน้าตาของตนแย่มาก ทำให้ตนขอทำงานอื่นซึ่งเป็นงานยกของแทน เมื่อเข้าทำงานแล้วก็มีอยู่ครั้งหนึ่งได้ไปออกงานที่บ้านเกิด จ.สกลนคร ซึ่งเป็นวันที่แดดร้อนมาก บรรดาพวก MC พริตตี้ผิวดี ๆ ก็ทนไม่ไหวเข้าไปหลบแดด เหลือแต่ตนที่ต้องเก็บลำโพง เครื่องเสียงต่าง ๆ ตนจึงเข้าไปหยิบไมโครโฟนร้องเพลงหมอรำบ้านเกิดพร้อมพูดอีสานคล่อง ที่สำคัญคือตนทนแดดทำให้คนจัดงานเลือกตนเป็นพีอาร์

              และนี่คือบางช่วงบางตอนของเรื่องราวชีวิต ก้อง ห้วยไร่ ที่เรานำมาเสนอ แต่หากใครที่สนใจอยากฟังเต็ม ๆ สามารถติดตามได้ที่รายการเจาะข่าวเด่น ทางช่อง 3 วันที่ 15 มกราคม 2559 เวลา 17.10 น. 

ประวัติ

 

ประวัติ

ประวัติ

ประวัติ

 

บทความคัดลอกจาก กระบุ๊กดอทคอม 
ภาพจาก รายการ เรื่องเล่าเช้านี้,  Instagram konghuayrai